“ข้อดีของชุมชนเราเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่แรก
รู้จักกันหมด ทำให้การดูแลชุมชนทำได้ง่าย มีหลายโครงการทำให้ชุมชนเข้มแข็ง
เช่น ชุมชนสีขาว ให้รุ่นพี่ดูแลรุ่นน้อง ที่ผ่านมา เราจะช่วยเหลือตัวเองก่อน
ขณะที่คนที่เข้ามาเป็นอาสาสมัคร ก็ไม่ได้มีค่าตอบแทนใดๆ เราทำด้วยใจจริงๆ” คุณปิ่นทอง วงษ์สกุล ประธานชุมชนกุฎีจีนกล่าวไว้
และด้วยคำกล่าวนี้เองกอปรกับการที่คณะผู้จัดทำรายงานได้ลงพื้นที่แล้วนั้น
จะเห็นได้ว่า ตราบใดที่เยาวชนและชาวชุมชนซางตาครู้สนี้ยังคงความภาคภูมิใจ
และรู้ถึงรากเหง้าแห่งวัฒนธรรมของตนเองแล้วนั้น ก็จะสามารถคาดเดาได้ว่า
สิ่งที่มีค่าเหล่านี้ นั่นหมายถึง วัฒนธรรม วิถีปฏิบัติ และสิ่งต่างๆเหล่านี้จะยังคงอยู่และมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นไปเรื่อยๆ
ตราบใดที่คนรุ่นใหม่เหล่านี้ยังคงดำวงไว้ซึ่งอุดมการณ์ที่จะอนุรักษ์
รวมถึงโครงการต่างๆจากภาครัฐและเอกชนที่คอยสนับสนุนและเล็งเห็นถึงความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้เอาไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น